วันจันทร์ที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2552

เทคโนโลยี 64 บิท VS 32 บิท

สวัสดีครับ.. บทความคราวนี้ก็เป็นเรื่องเกี่ยวกับ สิ่งที่ผู้ใช้หลายๆคน กังขาอยู่เลยนะครับว่า CPU
หรือเรียกภาษาไทยกันคุ้นๆ ว่าโปรเซสเซอร์ ที่มีเทคโนโลยี 2 เทคโนโลยีในปัจจุบันคือ 64bit และ
32bit นั้นมีความแตกต่างกันอย่างไร แล้วเราควรจะใช้งานตัวไหนดี


ก่อนอื่น ผมก็ต้องขออธิบายก่อนนะครับ เทคโนโลยี 64bit นี้นั้นมีมานานแล้ว ในคอมพิวเตอร์ระดับสูง
พวกที่ใช้งาน Databaseที่ทำงานกับข้อมูลจำนวนมาก หรืองานการคำนวนทางวิทยาศาสตร์ที่ซับซ้อน
จนกระทั้ง AMD ได้นำเทคโนโลยีนี้ลงมาใช้งานกับ เครื่องคอมพิวเตอร์สำหรับผู้ใช้งานทั่วไป
ถือเป็นการเริ่มต้น เทคโนโลยี 64bit สำหรับผู้ใช้ทั่วไป และทาง Intel ก็ได้ตามมาทีหลัง
และเทคโนโลยีนี้ก็อยู่บน เครื่องคอมพิวเตอร์เป็นเวลากว่า 1 ปีจนในที่สุดก็มาลงในโนตบุค
ซึ่งก็คือ AMD อีกเช่นกันที่เป็นคนเริ่ม ในชื่อของ AMD turion64 เอาเป็นว่าว่า CPU
ของโนตบุคในตลาดปัจจุบันนั้น มีตัวไหนบ้างที่ เป็น 64bit และตัวไหนบ้างที่เป็น 32bit ดังนี้

32 bit

Intel Celeron M
Intel Pentium M
Intel Core Solo
Intel Core Duo
AMD Mobile sempron


64 bit

Intel Core 2 Duo
AMD Turion64
AMD Turion64x2
AMD Mobile Athlon 64


โดย CPU ของทั้ง 2 ค่ายที่เป็น 64bit นี้ AMD จะใช้ชื่อเทคโนโลยีนี้ว่า x86-64
ส่วน Intel จะใช้ชื่อเทคโนโลยีนี้ว่า EM64T โดยชื่อเทคโนโลยีเหล่านี้สามารถตรวจสอบได้ผ่าน
โปรแกรม cpu-z ในหัวข้อ CPU ตรงช่อง instruction ครับ ซึ่งเทคโนโลยี 2 ตัวนี้
จะแตกต่างกันภายในเล็กน้อยแต่ว่า โดยตัวคอนเซปแล้วจะเหมือนกันนะครับ

แล้วอะไรคือ 64bit? -- คำตอบอันนี้จะเป็นในส่วนของทางด้านเทคนิคนิดนะครับ คือ CPU ปกติ
จะมีความจำของตนเองไว้ใช้งานภายในขนาดหนึ่ง ซึ่งหน้าที่ของความจำนี้ก็คืออ้างอิงถึงคำสั่งที่จะใช้งาน
และอ้างอิงถึงข้อมูลที่จะมาใช้คำสั่งนั้น

โดยถ้าเป็น 32bit นั้นการอ้างถึงความจำแต่ละครั้งนั้น จะได้ข้อมูล
กลับมา 32bit (1 bit มีค่าได้ 2 รูปแบบคือ 1 ,0 เท่านั้น) แต่ถ้าเป็น 64bit
ก็จะได้ข้อมูลกลับมา 64bit ถ้าเรามาคำนวนดูว่า 64bit นั้นมีค่ามากกว่า 32bit ขนาดไหนก็คือ

32bit มีค่าประมาณ 4,000,000,000.-
64bit มีค่าประมาณ 18,000,000,000,000,000,000.-

จะเห็นว่า 64bit นั้นน้อยกว่า 32bit แบบเทียบกันไม่ได้ซึ่งด้วยเหตุนี้นี่เองทำให้ CPU ประเภท 64bit นั้น
จะมีความสามารถสูงกว่า CPU 32bit เป็นอย่างมาก(โดยความสามารถนี้ไม่ได้แสดงออกมา
ทางด้านความเร็วอย่างเดียว แต่ว่าออกมาทางด้านปริมาณหน่วยความจำ
ความง่ายในการเขียนโปรแกรม และCPU สามารถทำสิ่งต่างๆได้มากขึ้นด้วย) แต่ทำไมเราถึงไม่เห็นความแตกต่างอันนี้
ในปัจจุบันนั้นก็เพราะว่า CPU ที่เป็น 64 บิตนั้นจะใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพที่มีอยู่ก็ต่อเมื่อ

1-ระบบปฏิบัติการรองรับเต็มที่
2-โปรแกรมที่เราจะใช้งานรองรับ
3-driver ของอุปกรณ์ต่างๆ รองรับ


ซึ่งทั้ง 3 อย่างนี้ล้วนแล้วแต่ยังมีปัญหาในการรองรับในปัจจุบัน เราจึงยังไม่จะยังไม่เห็นความแตกต่าง
ของโปรแกรมประเภท 32bit และ 64bit นักแต่ในอนาคตอันใกล้นี้ เราจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น
นับตั้งแต่ Window XP ได้ออก 64bit version สำหรับ CPU 64bit ออกมา,
Window Vista ที่ออกมาทั้งแบบ 32bit และ 64bit ,และโปรแกรมต่างๆที่เริ่มทยอยออก
เวอร์ชั่น 64bit กันออกมาแล้ว สิ่งเหล่านี้นับเป็นสัญญาณที่ทำให้แน่ใจได้ว่า ในอนาคต
การใช้งานประเภท 64bit คงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไมได้แน่นอน


ความแตกต่างที่เห็นได้ชัดเจนระหว่าง 64bit และ 32bit คือ

สามารถใช้แรมเพิ่มจาก เดิม 4GB เป็น 128GB (จริงๆแล้วซัพพอร์ตได้มากกว่านี้แต่ว่าถูกจำกัดไว้โดย Window)
โปรแกรมประเภท 64bit จะทำงานได้เร็วกว่าโปรแกรมตัวเดียวกันประเภท 32bit

(เงื่อนไข : โปรแกรม 64bit ทำงานบนระบบปฏิบัติการ 64bit และ โปรแกรม 32bit

ทำงานบนระบบปฏิบัติการ 32bit) แต่ไม่เห็นผลต่างนี้ในเกมปัจจุบัน
โปรแกรม 32 บิตสามารถรันบน CPU64bit ได้แต่ว่า โปรแกรม 64bit ไม่สามารถรันบน CPU32bit ได้
ต่อมาก็เป็นคำถามยอดฮิตสำหรับผู้ที่จะซื้อโนตบุคนะครับ คือ เราสมควรจะซื้อ CPU ประเภทไหนกันแน่

ระหว่าง 32bit หรือ 64bit
คำตอบของคำถามนี้ก็ขึ้นอยู่กับผู้ใช้ด้วยนะครับ ที่จะช่วยเลือกว่าเราจะซื้อ CPU ประเภทไหนดี

จุดแรกคือ CPU ประเภท 64bit ในปัจจุบันนี้มีประสิทธิภาพสูงกว่า ตัวที่เป็น 32bit ทุกตัว

แต่ว่าเรื่องการประหยัดพลังงานนั้น ถึงแม้ว่า CPU ประเภท 64bit จะมีเทคโนโลยีในการประหยัดพลังงานใหม่ๆ

เพิ่มขึ้นมาจากรุ่นเก่าก็ตามแต่ว่าเนื่องจาก CPU เหล่านี้เป็นแบบ Dual-core จึงเป็นที่แน่นอนว่า

ย่อมกินไฟมากกว่า CPU ประเภท single-core แน่นอน
และอีกจุดนึงก็คือ CPU 64bit เหล่านี้มีราคาที่แพงกว่า CPU ประเภท 32bit

พอสมควรจึงเป็นตัวเลือกให้ตัดสินใจสำหรับผู้ใช้ได้
-->> ต่อไปเป็นการเลือก CPU จากการใช้งานนะครับ
สำหรับผู้ที่ใช้งานคอมพิวเตอร์ หลักๆแล้วเป็นการใช้งานที่เบาๆ ไม่มีอะไรมาก เช่น ฟังเพลง ร้องคาราโอเกะ

ทำงานเอกสาร office ง่าย มีไว้เพื่อโอนไฟล์เพลงลง MP3 player หรือ

งบประมาณจำกัด(ต่ำกว่า 25,000 บาท) ก็ควรเลือกเครื่องที่ราคาถูก และแค่ใช้งานของเราได้ก็พอ

ผมแนะนำให้ใช้เป็น Celeron M นะครับเพราะว่าเพียงแค่นี้ก็สามารถรองรับการใช้งานได้สบายๆ แล้ว
สำหรับผู้ที่ใช้งาน นอกบ้าน และใช้โนตบุคเพื่อการพรีเซนสินค้า ฉายสไลด์ นำไปโชว์ผลงาน หรือพูดอีกอย่างก็คือใ

ช้โนตบุคเป็นเครื่องสำรองสำหรับการพกพาไปใช้แสดงผลงาน โดยที่ตนเองใช้งาน PC เป็นหลักอยู่แล้วก็ควรใช้งานโนตบุค

ที่ ไม่ต้องมีประสิทธิภาพสูงนัก เพราะว่าเป็นแค่การใช้งานชั่วครั้งชั่วคราว และเน้นทางด้านการประหยัดพลังงานซะมากกว่า

ผมแนะนำให้ใช้เป็น Celeron M ,Core Solo นะครับเพราะว่า CPU รุ่นนี้สามารถประหยัดพลังงาน

ได้มาก ใช้งานนอกสถานที่ได้เป็นเวลานาน
ต่อมาสำหรับผู้ใช้ที่ ใช้งานโปรแกรมเฉพาะทางครับพวก วิศวกรรม ,ไฟฟ้า ,ตัดต่อวีดีโอ ฯลฯ นั้น

ผมแนะนำให้เลือก CPU ที่รองรับอนาคตเพราะว่าโปรแกรมเฉพาะทางเหล่านี้มีโอกาสที่เวอร์ชั่นต่อไป

ที่จะออกมาเป็น แบบ 64bit นั้นค่อนข้างสูงเพราะว่าโปรแกรมเหล่านี้ถ้าใช้งานในระบบ 64bit

จะทำงานได้รวดเร็วขึ้นมาก โดย CPU ที่แนะนำคือ Turion64 ,Turion64x2 ,Core2Duo

(ได้ทั้ง 2 รุ่นคือ t5xxx และ t7xxx)
สำหรับผู้ใช้งาน ระดับทั่วๆไป ที่มีงบประมาณกลางๆ ระดับ <45,000>

ที่จะให้โนตบุคนั้นใช้งานได้ไปอีกนาน และใช้โปรแกรมเล่นไปเรื่อย แบบว่าใช้งานกว้างๆ

นั้นผมก็ขอแนะนำเป็น CPU Turion64x2 และ Core2Duo ตระกูล t5xxx ครับ เ

พราะว่าประสิทธิภาพของ 2 ตัวนี้นั้นสามารถรองรับการใช้งานของโปรแกรมใหม่ๆ ไปได้อีกนาน

และด้วยตัวของมันเองที่รองรับการใช้งาน 64bit ทำให้สามารถรองรับโปรแกรมในอนาคตได้

สุดท้ายนะครับสำหรับผู้ใช้งานที่มีงบประมาณสูง (ระดับ >70,000 ขึ้นไป) ผมก็แนะนำให้เลือกใช้

CPU Core 2 Duo ตระกูล t7xxx นะครับเพราะว่า CPU ตระกูลนี้ได้รับการยอมรับเลยว่าเร็วที่สุด

ในปัจจุบันแล้ว และเราก็มีเงินเหลือเฟือที่จะเลือกใช้โนตบุครุ่นที่เราอยากได้ ถ้าไงแล้วก็เลือกรุ่นที่เร็วที่สุด

ไปเลยดีกว่า ครับคือการเลือกในข้อนี้นั้น ไม่ต้องพิจารณาอะไรมากครับ เพราะด้วยจำนวนเงินที่สูงมาก

ทำให้เราสามารถเลือกเครื่องที่มีประสิทธิภาพสูงที่สุดที่เราต้องการได้อยู่แล้ว ครับไม่คำนึงถึงการใช้งาน

เพราะว่าแน่นอนว่าความสามารถระดับนี้ย่อมทำได้ทุกอย่างอยู่แล้ว
ครับสำหรับเนื้อหาเกี่ยวกับเทคโนโลยี CPU ใหม่ที่เรียกว่า 64bit นี้จะทำให้ผู้ที่สงสัย นั้น

ได้หายข้องใจกันลงได้นะครับ หรือผู้ที่กำลังลังเลใจในการเลือกซื้อจะได้ สามารถเลือกซื้อได้อย่างสบายใจ

ไม่ต้องเก็บมานั่งคิดให้เครียดกันอีกต่อไป



ขอขอบคุณบทความจาก http://www.notebookspec.com/

1 ความคิดเห็น:

Unknown กล่าวว่า...

แจ่ม